|
|
|
ก่อนจะทำการออกแบบนิตยสารนั้น
มีเรื่องที่จะต้องมีการกำหนดและวางแผนเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ
ดังนี้ |
|
|
|
|
ระบุความต้องการในการออกแบบให้ชัดเจน
|
|
|
หากเป็นนิตยสารที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้ว
จะต้องพิจารณาว่าควรจะทำการปรับปรุงจากบุคลิกภาพเดิมหรือควรจะเปลี่ยนบุคลิกภาพใหม่
เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของนิตยสารย่อมจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป
|
|
|
ดังนั้นนิตยสารก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนตัวเองไปด้วยเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายเอาไว้
บางครั้งการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เพื่อพยายามดึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ เคยมีผู้กล่าวว่านิตยสารควร
จะมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงทุกๆ 5 ปีตามการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มเป้าหมาย
|
|
|
|
|
|
กำหนดขนาดและรูปแบบของนิตยสาร
|
|
|
แม้ว่านิตยสารจะสามารถผลิตได้ในทุกขนาดและรูปแบบ
แต่ในการกำหนดขนาดและรูปแบบนั้น จะต้องมีการคำนึงถึงความประหยัด ต้นทุนการพิมพ์และการผลิต
|
|
|
ต้นทุนที่สำคัญก็คือค่ากระดาษที่ใช้ในการพิมพ์
การกำหนดขนาดที่ทำให้เกิด
การตัดกระดาษได้โดยไม่เหลือเศษหรือเหลือเศษน้อยจึงเป็นเรื่องที่นิตยสาร
ทุกฉบับต้องคำนึงถึง
ดังนั้นขนาดของนิตยสารที่มีอยู่ในตลาดจึงมักมีขนาดที่
ี่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันมี 4 ขนาดดังนี้
1. นิตยสารที่มุ่งการนำเสนอภาพ มักนิยมขนาด
10 ? * 13 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่
2. นิตยสารที่มุ่งการนำเสนอภาพและเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร มักนิยมขนาด
7 ? x 10 ? นิ้ว
3. นิตยสารที่มุ่งการนำเสนอภาพและเนื้อหาที่เป็นตัวอักษร มักนิยมขนาด
8 ? x 11 นิ้ว
ซึ่งเป็นขนาดที่เป็นที่นิยมใช้มากที่สุด
4. นิตยสารที่มุ่งการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นตัวอักษรขนาด
5 ? x 7 ? นิ้ว
ซึ่งเป็นขนาดที่ค่อนข้างเล็ก เรียกว่า ขนาดพ็อกเก็ตบุ๊ก
|
|
|
นอกจากเรื่องความพยายามในการประหยัดกระดาษเพื่อลดต้นทุนแล้ว
ขนาดของนิตยสารจะต้องเหมาะสมกับการใช้งาน คือ สามารถถือไปมา และเปิดอ่านเป็นเวลานานได้สะดวก
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงด้วยว่าจะสามารถวางบนชั้นหนังสือได้หรือไม่
รูปแบบของนิตยสารส่วนใหญ่มักจะเป็นแนวตั้งเสมอ
และความหนาของนิตยสารก็มักจะมีจำนวนหน้าเท่ากันทุกฉบับ โดยเฉพาะนิตยสาร
ที่ไม่มีหน้าโฆษณานั้นอาจจะมีจำนวนหน้าเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามจำนวนหน้าโฆษณาในแต่ละฉบับ |
|
|
|
|
ปกหน้าของนิตยสารเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของนิตยสาร
ปกหน้าเปรียบเสมือนหน้าตาของนิตยสารซึ่งก่อให้เกิดความประทับใจเมื่อแรกเห็น
อีกทั้งยังเป็นจุดที่แสดงออกซึ่งบุคลิกภาพของนิตยสารได้ชัดเจน ดังนั้นก่อนจะออกแบบในรายละเอียด
ต้องมีการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับรูปแบบของหน้าปก ดังนี้
|
|
|
|
|
จะเลือกรูปแบบปกหน้าในตัว
(Self cover) หรือปกหน้าแยก (Separate Cover) |
|
ปกหน้าในตัวคือปกหน้าที่ใช้กระดาษเช่นเดียวกับหน้าในและพิมพ์ไปพร้อมกันกับการพิมพ์หน้าใน
ส่วนปกหน้าแยกคือปกหน้าที่ใช้ประดาษที่แตกต่างจากหน้าใน มักจะเป็นกระดาษที่หนากว่าและพิมพ์แยกเฉพาะส่วนที่เป็นปก
(ปกหน้านอกด้านใน และปกหลังนอกด้านใน) ปกหน้าในตัวจะประหยัดต้นทุนในการผลิตมากกว่าปกหน้าแยก
แต่ก็เหมาะจะใช้ในกรณีกระดาษที่ใช้ในการพิมพ์เป็น กระดาษที่ค่อนข้างหนาและคุณภาพดีเท่านั้น
|
|
|
|
จะให้มีพื้นที่ในการโฆษณาในปกหน้าหรือไม่
|
เนื่องจากปกหน้าเป็นส่วนที่เด่นที่สุดของนิตยสาร
การแบ่งพื้นที่บางส่วนเพื่อขายเป็น พื้นที่โฆษณาจะนำรายได้ที่แน่นอนมาให้นิตยสาร
แต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้เสียพื้นที่ที่จะใช้ในการสร้างความประทับใจและชักจูงใจผู้อ่าน
เมื่อเทียบผลได้และผลเสียแล้ว จะพบว่านิตยสารส่วนใหญ่เลือกไม่ให้พื้นที่โฆษณาในปกหน้า
เพราะพื้นที่โฆษณาในปกหน้าด้านใน ปกหลังด้านในและด้านนอกก็มีอยู่เพียงพอแล้ว
|
|
|
จะกำหนดสัดส่วนระหว่างภาพและตัวอักษรอย่างไร
|
ดังได้กล่าวมาแล้วว่าปกหน้ามีหน้าที่สำคัญหลายประการทั้งเรียกร้องความสนใจ
และสร้าง ความประทับใจ ก่อนทำการออกแบบจะต้องมีการกำหนดเสียก่อนว่าจะให้มีสัดส่วนระหว่างภาพ
และตัวอักษรอย่างไรเริ่มตั้งแต่ชื่อนิตยสาร
ส่วนใหญ่ต้องมีขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นได้ชัดและมักวางอยู่ส่วนบนของหน้าเพื่อ
ไม่ให้ถูกบดบัง
จากนิตยสารอื่นเมื่อวางอยู่บนแผงขายหนังสือ นอกจากแถบชื่อแล้ว
นิตยสารส่วนใหญ่มักจะใช้ภาพเป็น องค์ประกอบหลักซึ่งจะต้องกำหนดว่าจะเป็นการใช้ภาพเต็มหน้าหรืออยู่ในกรอบใต้แถบ |
|
|
|
|
|
ตัวอักษรในนิตยสารนั้น แม้ว่าจะสามารถมีได้มากแบบ
แต่ก็ควรมีการกำหนดแบบ หลักๆ สำหรับหน้าต่างๆ เอาไว้เพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอ
นอกจากแบบแล้วก็ควรมีการกำหนดขนาดเอาไว้ด้วยว่าตัวอักษรในส่วนใดควรจะมีขนาดเท่าใด
ภาพประกอบ เช่นเดียวกับตัวอักษร
ภาพประกอบในนิตยสารก็ควรมีการกำหนดรูปแบบ และขนาดในการนำไปใช้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์อันบ่งถึง
ลักษณะเฉพาะตัวของนิตยสารเช่น ใช้ภาพที่มีพื้นหลังเสมอไม่มีการไดคัต
หรือ ตัดเอาพื้นหลังออก
เพื่อแสดงว่าภาพนั้นไม่ได้มีการตกแต่งเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เป็นต้น
|
|
|
|
|
|
|